ตอบข้อ 3.
อธิบาย
การเคลื่อนที่ในแนวดิ่งภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก
กาลิเลโอ ได้ทำการทดลองให้เห็นว่า วัตถุที่ตกลงสู่พื้นโลกอย่างอิสระ จะเคลื่อนที่ภายใต้แรงดึงดูดของโลก ต่อมานิวตันสังเกตุเห็นว่า ทำไมดวงจันทร์ไม่ลอยหลุดออกไปจากโลก ทำไมผลแอปเปิ้ลจึงตกลงสู่พื้นดิน นิวตันได้ทำการศึกษาค้นคว้าต่อ จนในที่สุดก็สามารถพิสูจน์ในเรื่องกฎแห่งการดึงดูดของ สสาร โดยโลกและดวงจันทร์ต่างมีแรงดึงดูดซึ่งกันและ กัน แต่เนื่องจากดวงจันทร์โคจรรอบโลก จึงมีแรงหนีสู่ศูนย์กลางซึ่งต่อต้านแรงดึงดูดไว้ ทำให้ดวงจันทร์ลอยโคจรรอบโลกได้ แต่ผลแอปเปิ้ลกับโลกก็มีแรงดึงดูดระหว่างกัน ผลแอปเปิ้ลเมื่อหลุดจากขั้วจึงเคลื่อนที่อิสระตามแรงดึงดูดนั้น
ข้อ.42.
ตอบข้อ 2. 10m/s
อธิบายการเคลื่อนที่ คือ การที่วัตถุย้ายตำแหน่งจากที่เดิมไปอยู่ที่ตำแหน่งใหม่ ปริมาณที่ใช้บอกขนาดของการเคลื่อนที่ของวัตถุ คือ ระยะทางและการกระจัด
ระยะทาง คือ ความยาวที่วัดตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ จัดเป็นปริมาณสเกลลาร์
ที่มาhttp://www.snr.ac.th/elearning/kosit/sec01p03.html
ข้อ 43.
ตอบข้อ 4. 49m/s
อธิบาย การตกเสรี ความเร่งคือ g เสมอ
ที่มาเมื่อปล่อยให้วัตถุตกอย่างเสรี วัตถุจะมีความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ นั่นคือ วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัว เรียกความเร่งเนื่องจากการตกของวัตถุว่า ความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก (gravitational acceleration) ใช้สัญลักษณ์ g มีค่าเท่ากับ 9.80665 m/s เพื่อความสะดวกในการคำนวณมักใช้ค่าเป็น 9.8 m/s หรือ 10 m/s มีทิศดิ่งลงสู่พื้นเสมอ 2.2 กรณีที่วัตถุเคลื่อนที่ขึ้นในแนวดิ่ง การเคลื่อนที่ของวัตถุที่มีแนวการเคลื่อนที่ขึ้นในแนวดิ่ง เป็นการเคลื่อนที่ภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก ความเร็วของวัตถุจะลดลงอย่างสม่ำเสมอ แสดงว่าเคลื่อนที่ขึ้นไปด้วยความเร่งที่มีทิศตรงข้ามกับความเร็ว
ตอบข้อ 3. 4 s
อธิบาย
คือการที่วัตถุเคลื่อนที่กลับไปมาซ้ำรอยเดิม มักจะใช้สัญญลักษณ์ว่า SHM. ตัวอย่างของการเคลื่อนที่แบบนี้ได้แก่ การเคลื่อนที่ของวัตถุที่ถูกผูกติดไว้กับสปริงในแนวราบ แล้ววัตถุเคลื่อนที่ไปมาตามแรงที่สปริงกระทำต่อวัตถุ ซึ่งเขาจะศึกษาการเคลื่อนที่นี้จากรูปที่ 1 ในรูปที่ 1a ตำแหน่ง x = 0 เป็นตำแหน่งสมดุลของปริง หรือ เป็นตำแหน่งที่สปริงมีความยาวตามปกติ ณ ตำแหน่งนี้สปริงจะไม่ส่งแรงมากระทำต่อวัตถุ ในรูปที่ 1a นี้มีวัตถุมวล m ผูกติดกับสปริง วางอยู่บนพื้นที่ซึ่งไม่มีแรงเสียดทาน ที่ตำแหน่งซึ่งปริงยืดออกจากความยาวปกติเป็นระยะทาง A สปริงจะออกแรงดึงวัตถุมวล m กลับมาอยู่ในตำแหน่งสมดุล x = 0 เรียกแรงที่สปริงกระทำต่อวัตถุนี้ว่าแรงดึงกลับ (Restoring force) ถ้า F เป็นแรงดึงกลับนี้จะได้ว่า F = -kx -----(1)
ตอบข้อ 2.ไม่ขึ้นกับมวลของลูกตุ้ม
อธิบายมนุษย์เริ่มใช้นาฬิกาแบบลูกตุ้มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1659 ในขณะนั้นถือว่ามีความเที่ยงตรงสูงมาก นาฬิกามีชิ้นส่วนสำคัญต่างๆดังต่อไปนี้
ระยะทางที่นับโดยยานพาหนะ (ด้วยมาตรระยะทาง) หรือโดยคน สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ ควรแยกแยะออกจากระยะกระจัดระหว่างจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุด ถึงแม้ว่าจะหมายถึงระยะทางที่สั้นที่สุดก็ตาม เนื่องจากเส้นทางอาจมีการวนรอบ ซึ่งจุดสิ้นสุดสามารถเป็นจุดเดียวกับจุดเริ่มต้นก็ได้
ที่มาhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87
ข้อ 47.
ตอบข้อ 3.ความเร็วของวัตถุในแนนดิ่งมีค่าเป็นศูนย์
อธิบาย
การเคลื่อนที่แบบโปรเจกไตล์(Motion of a Projectile) คือการเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นแนวโค้ง ในกรณีที่วัตถุเคลื่อนที่อย่างเสรีด้วยแรงโน้มถ่วงคงที่ เช่น วัตถุเคลื่อนที่ไปในอากาศภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก ทางเดินของวัตถุจะเป็นรูปพาราโบลา
ที่มาhttp://www.school.net.th/library/snet3/supinya/projectil-m/projecti.htm
ข้อ 48.
ตอบข้อ 1. 1.6m/s
อธิบาย
เมื่อวัตถุมีความเร่งในช่วงเวลาหนึ่ง ความเร็วของมันจะเปลี่ยนแปลงไป ความเร่งอาจมีค่าเป็นบวกหรือลบก็ได้ ซึ่งเรามักว่าเรียกความเร่ง กับ ความหน่วง ตามลำดับ ความเร่งมีนิยามว่า "อัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็วของวัตถุในช่วงเวลาหนึ่ง" และกำหนดโดยสมการนี้
หรือเขียนเป็นอีกสมการได้
ข้อ 49.
ตอบข้อ 3. 2.0m/s
อธิบาย
อัตราเร็ว เป็นปริมาณสเกลาร์ที่มีมิติเป็นระยะทาง/เวลา ปริมาณเวกเตอร์ที่เทียบเท่ากับอัตราเร็วคือความเร็ว อัตราเร็ววัดในหน่วยเชิงกายภาพเดียวกับความเร็ว แต่อัตราเร็วไม่มีองค์ประกอบของทิศทางแบบที่ความเร็วมี อัตราเร็วจึงเป็นองค์ประกอบส่วนที่เป็นขนาดของความเร็ว
ในรูปสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ อัตราเร็วคือ
ข้อ 50.
ตอบข้อ 4. ทิศ -Y ด้วยความเร่ง
อธิบายเมื่อ อนุภาคตัวหนึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น เราจะกล่าวว่า อนุภาค มี ความเร่ง (acceleration) แต่ถ้า มีความเร็วลดลง เราจะกล่าวว่า อนุภาคมีความหน่วง (deceleration or retardation)
ถ้าให้ อนุภาค หรือวัตถุ เคลื่อนที่ตามแนวแกน x อย่างเดียว สมมติว่า ที่เวลา t1 อนุภาค อยู่ที่จุด P1 และมีความเร็วชั่วขณะ เป็นส่วนประกอบแกน x เป็น v1 และ ณ เวลาถัดต่อมา t2 วัตถุจะอยู่ที่จุด P2 และมีความเร็วชั่วขณะ เป็นส่วนประกอบแกน x เป็น v2
ที่มาhttp://motionthai.blogspot.com/
ที่มาhttp://202.143.139.229/~boonlai/webdata/straigth%20motion.htm
ข้อ 44.
ตอบข้อ 3. 4 s
อธิบาย
ที่มาhttp://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/supinya/harmonic-mot/harmonic.htm
ข้อ 45.
อธิบายมนุษย์เริ่มใช้นาฬิกาแบบลูกตุ้มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1659 ในขณะนั้นถือว่ามีความเที่ยงตรงสูงมาก นาฬิกามีชิ้นส่วนสำคัญต่างๆดังต่อไปนี้
- หน้าปัดมีเข็มชั่วโมง นาที และวินาที
- มีตุ้มน้ำหนักจำนวน 1 หรือมากกว่า (ถ้าเป็นนาฬิกาที่ทันสมัยขึ้นมาอีกหน่อย จะใช้สปริงขดเป็นวงแทน)
- ลูกตุ้มที่แกว่งไปมา ซึ่งการแกว่งทั่วๆไป คือ หนึ่งครั้งต่อหนึ่งวินาที หรือบางยี่ห้อก็แกว่งสองครั้งต่อวินาที ส่วนนาฬิการุ่นที่เก่าจริงๆ จะแกว่ง 1 ครั้งต่อ 2 วินาที
ที่มาhttp://www.rmutphysics.com/CHARUD/howstuffwork/pendulum-clock/pendulum-clockthai.htm
ข้อ 46.
ตอบข้อ 4.
ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์ที่ไม่สามารถเป็นจำนวนลบ และมีเพียงขนาด (magnitude) ในขณะที่ระยะกระจัด (displacement) จะเทียบเท่ากับปริมาณเวกเตอร์ที่มีทั้งขนาดและทิศทางระยะทางที่นับโดยยานพาหนะ (ด้วยมาตรระยะทาง) หรือโดยคน สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ ควรแยกแยะออกจากระยะกระจัดระหว่างจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุด ถึงแม้ว่าจะหมายถึงระยะทางที่สั้นที่สุดก็ตาม เนื่องจากเส้นทางอาจมีการวนรอบ ซึ่งจุดสิ้นสุดสามารถเป็นจุดเดียวกับจุดเริ่มต้นก็ได้
ที่มาhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87
ข้อ 47.
ตอบข้อ 3.ความเร็วของวัตถุในแนนดิ่งมีค่าเป็นศูนย์
อธิบาย
ที่มาhttp://www.school.net.th/library/snet3/supinya/projectil-m/projecti.htm
ข้อ 48.
ตอบข้อ 1. 1.6m/s
อธิบาย
เมื่อวัตถุมีความเร่งในช่วงเวลาหนึ่ง ความเร็วของมันจะเปลี่ยนแปลงไป ความเร่งอาจมีค่าเป็นบวกหรือลบก็ได้ ซึ่งเรามักว่าเรียกความเร่ง กับ ความหน่วง ตามลำดับ ความเร่งมีนิยามว่า "อัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็วของวัตถุในช่วงเวลาหนึ่ง" และกำหนดโดยสมการนี้
- a คือ เวกเตอร์ความเร่ง
- v คือ เวกเตอร์ความเร็ว ในหน่วย m/s
- t คือ เวลา ในหน่วยวินาที
หรือเขียนเป็นอีกสมการได้
- คือ ความเร่งเฉลี่ย (m/s²)
- คือ ความเร็วต้น (m/s)
- คือ ความเร็วปลาย (m/s)
- คือ ช่วงเวลา (s)
ข้อ 49.
ตอบข้อ 3. 2.0m/s
อธิบาย
อัตราเร็ว เป็นปริมาณสเกลาร์ที่มีมิติเป็นระยะทาง/เวลา ปริมาณเวกเตอร์ที่เทียบเท่ากับอัตราเร็วคือความเร็ว อัตราเร็ววัดในหน่วยเชิงกายภาพเดียวกับความเร็ว แต่อัตราเร็วไม่มีองค์ประกอบของทิศทางแบบที่ความเร็วมี อัตราเร็วจึงเป็นองค์ประกอบส่วนที่เป็นขนาดของความเร็ว
ในรูปสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ อัตราเร็วคือ
ข้อ 50.
ตอบข้อ 4. ทิศ -Y ด้วยความเร่ง
อธิบายเมื่อ อนุภาคตัวหนึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น เราจะกล่าวว่า อนุภาค มี ความเร่ง (acceleration) แต่ถ้า มีความเร็วลดลง เราจะกล่าวว่า อนุภาคมีความหน่วง (deceleration or retardation)
ถ้าให้ อนุภาค หรือวัตถุ เคลื่อนที่ตามแนวแกน x อย่างเดียว สมมติว่า ที่เวลา t1 อนุภาค อยู่ที่จุด P1 และมีความเร็วชั่วขณะ เป็นส่วนประกอบแกน x เป็น v1 และ ณ เวลาถัดต่อมา t2 วัตถุจะอยู่ที่จุด P2 และมีความเร็วชั่วขณะ เป็นส่วนประกอบแกน x เป็น v2
ที่มาhttp://motionthai.blogspot.com/
จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน-ให้ 60 คะแนน
ตอบลบน.ส.อารีรัตน์ กล่อมดี ม.5/1 เลขที่ 42
น.ส.นพวรรณ อ่อนละออ ม.5/1 เลขที่ 34
จากคะแนน 100 คะแนน-ให้ 90 คะแนน
ตอบลบน.ส.ดวงใจกระแจะจันทร์ ม.5/1 เลขที่ 29
น.ส.ธิดา พันธ์เรือง ม.5/1 เลขที่ 33
รวม 2 คน เต็ม 200 คะแนน ได้ 150
ตอบลบหาร 2 เต็ม 100 คะแนน ได้ 75